Honeywell เปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่รองรับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เทคโนโลยีขั้นสูงช่วยให้องค์กรเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานและบุคลากรในปัจจุบัน พร้อมรองรับการพัฒนาสำหรับการประหยัดเวลาบนอุปกรณ์ในอนาคต     ชาร์ลอตต์, นอร์ทแคโรไลนา, 14 ตุลาคม 2567 – Honeywell (Nasdaq: HON) ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์พกพารุ่นใหม่สามรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเสริมศักยภาพของพนักงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทาน เช่น คลังสินค้าและพื้นที่ขายปลีก คอมพิวเตอร์พกพาเหล่านี้ ได้แก่ CT37, CK67 และ CK62 ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้พนักงานทำงานอย่างชาญฉลาดขึ้นและเพิ่มทักษะการทำงานในขณะปฏิบัติงานได้เร็วขึ้น การพัฒนาอุปกรณ์พกพาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่สามารถสนับสนุนการประดิษฐ์และประสิทธิภาพที่ AI นำเสนอให้สอดคล้องกับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของ Honeywell ที่มุ่งเน้นไปยังสามเทรนด์สำคัญ ได้แก่ ระบบอัตโนมัติ โดยยังสอดคล้องกับแผนล่าสุดของ Honeywell ที่จะพัฒนา AI Multi-Modal Intelligent Agent สำหรับอุปกรณ์มือถือของ Honeywell เริ่มจากรุ่น CT47 “คอมพิวเตอร์พกพาของ Honeywell ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโลกของเราให้เดินหน้าต่อไป โดยทำหน้าที่เป็นตัวเสริมประสิทธิภาพเพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ระบบการดูแลสุขภาพ และการเดินทางทางอากาศมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น” เดวิด […]

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น การใช้งานระบบระบุและติดตามข้อมูลต่าง ๆ ก็ยิ่งมีความสำคัญและแพร่หลายออกไป เทคโนโลยีที่นิยมใช้ในการระบุและติดตามข้อมูลที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ Barcode, QR Code, และ RFID ทั้งสามเทคโนโลยีนี้มีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสามเทคโนโลยี 1. Barcode (บาร์โค้ด) บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้มานานและแพร่หลายที่สุด โดยทั่วไปจะเป็นเส้นคู่ขนานสีดำและขาว ที่มีการเรียงรหัสข้อมูลตามรูปแบบเส้นเพื่อบ่งบอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น หมายเลขสินค้า วันผลิต หรือราคาสินค้า ข้อมูลในบาร์โค้ดสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องสแกนบาร์โค้ด ซึ่งมีการใช้งานในหลากหลายธุรกิจ เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และคลังสินค้า   ข้อดี ● ราคาถูกและหาได้ง่าย ● ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในงานที่ต้องการความเร็วในการอ่านข้อมูล ข้อเสีย ● มีความจุข้อมูลจำกัด ● ต้องใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดในการอ่านข้อมูล 2. QR Code (คิวอาร์โค้ด) QR Code เป็นการพัฒนามาจากบาร์โค้ดที่เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูลที่มากขึ้นและซับซ้อนกว่า QR Code มีรูปแบบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีจุดและลวดลายต่าง ๆ ที่สามารถอ่านได้จากทุกทิศทาง ทำให้มีการใช้งานที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลที่มากกว่าบาร์โค้ด   […]

บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุข้อมูลและติดตามผลิตภัณฑ์โดยการสแกน บาร์โค้ดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional) และบาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional) บาร์โค้ดทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของรูปแบบและการใช้งาน . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional Barcode) . . ลักษณะ บาร์โค้ดแบบ 1D เป็นบาร์โค้ดที่มีลักษณะเป็นแถบเส้นที่เรียงตัวกันในแนวเดียว (แนวนอน) เส้นเหล่านี้ประกอบไปด้วยเส้นสีดำและช่องว่างสีขาวที่มีความกว้างและขนาดแตกต่างกัน ข้อมูลที่เก็บอยู่ในบาร์โค้ดแบบ 1D จะอยู่ในรูปแบบของตัวเลขหรือตัวอักษร ซึ่งอ่านได้โดยการสแกนจากซ้ายไปขวา สามารถเก็บข้อมูลได้จำกัด ประมาณ 20–25 อักขระ การใช้งาน ● สินค้าทั่วไปในร้านค้า : ใช้ในการสแกนและระบุสินค้าที่แคชเชียร์ ● การจัดการคลังสินค้า : ใช้ในการติดตามสินค้าและการตรวจนับสินค้าในคลัง ● อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ : ใช้ในการติดตามพัสดุและการขนส่งสินค้า . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional Barcode) . . […]